ก่อนความหมายจะหายลับ





สิ่งที่น่าสงสัยที่สุดในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ก็คือประโยคที่นำมาวางไว้ก่อนจะเข้าเรื่อง ซึ่งคำตามระบุไว้ว่า เป็นประโยคที่มีความหมาย ชวนให้ขบคิดไปได้หลายนัยอย่างยิ่งหากพลิกกลับไปอ่านประโยคดังกล่าวซึ่งมีความว่า “...เมื่อปรากฏรอยสัตว์ลงกินน้ำใหม่ ๆ เช่นนั้น ท่านก็ควรจะเร่งติดตามรอยไป แต่พรานรบเร้าให้นั่งซุ้ม ยืนยันว่าอย่างไรเสียมันจะกลับมากินในไม่ช้าไม่นาน...ก็คงต้องตั้งคำถามว่า ประโยคนี้มีหลายนัยอย่างไร? เพราะอ่านแล้วความก็ชัดเจนอยู่ในตัวเองว่าเป็นความเห็นของพรานล่าสัตว์ ว่าสัตว์เจ้าของรอยจะต้องย้อนกลับมากินน้ำที่เดิม เพียงเท่านั้น คำตามนอกจากจะไม่อธิบายประเด็นที่เปิดไว้เองว่า หลายนัยแล้ว ยัง โมเมเอาประโยคดังกล่าวมาอธิบายรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ว่า  ชี้ชวนให้คนอ่านคิดไปได้ว่าตัวละครในเรื่องสั้นทั้งแปด อาจเป็นคนที่ตามรอยสัตว์หรืออาจเป็นสัตว์ที่ตามรอยคน..แล้วก็สรุปว่า ทำให้ความหมายของคนจึงไม่เป็นคน และความหมายของสัตว์ถึงไม่เป็นสัตว์..ทั้งที่ประโยคนี้มีความหมายชัดเจนและในบริบทเดิมของมันไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับรวมเรื่องสั้นเล่มนี้เลย คำตามนี้จึงดูขัดแย้งกับชื่อ ก่อนความหมายจะหายลับเพราะความหมายไม่มีตั้งแต่แรก การพยายามให้ความหมายกลายเป็นการนำอะไรก็ได้ที่ประกอบเข้ามาแล้วดูเหมือนจะมีความหมาย (สามารถสรรประโยคได้อีกร้อยแปดพันเก้าจากหนังสือนิยายบู๊, ตำราแพทย์, คู่มือเตรียมสอบ, คำประกาศคณะปฏิวิติ, ใบปลิวโฆษณา ฯลฯ แล้วเอามาเขียนเองให้เกิดความหมายแบบนี้)

เรื่องสั้นทั้ง 8 เรื่องใน ก่อนความหมายจะหายลับ โดยสมุด ทีทรรศน์ มีเนื้อหาเกี่ยวกับการสูญเสียความเป็นคน, การกีดกันความเป็นคน ความบกพร่องหรือแหว่งวิ่นของความเป็นคน กระทั่งความอัปลักษณ์ของความเป็นคน ความเป็นคนถูกนำเสนอในหลากหลายมิติ และเทียบเคียงกับสิ่งต่าง ๆ รวมทั้งความตาย เมื่อพิจารณาร่วมกับคำอุทิศที่มอบให้กับ มนุษยภาพแล้ว ก็พอจะเห็น ธงที่เป็นประเด็นความคิดของผู้เขียนได้

ท่วงทำนองของเรื่องสั้นแต่ละเรื่องในหนังสือเล่มนี้ ใกล้เคียงกับสิ่งที่ฟริดริค ชเลเกล นักเขียนในขบวนการโรแมนติกนิยมของศตวรรษที่ 18 เรียกว่า ชิ้นส่วนวรรณกรรม (literary fragments) คือเป็นส่วนของวรรณกรรมที่ขาดความสมบูรณ์ในตัวเอง แต่แม้จะไม่สมบูรณ์มันก็ยังสะท้อนความหมายบางอย่างออกมา

สำหรับนักเขียนที่ต้องการรังสรรค์สิ่งใหม่ การพยายามหลีกเลี่ยงความสมบูรณ์แบบ และหมกมุ่นกับท่วงท่าของการเล่าเรื่อง เป็นสิ่งที่สมควร กระนั้น มันก็ไม่ได้หมายความว่าการเขียนอะไรก็ตามบนพื้นฐานนี้จะเกิดขึ้นโดยที่ไม่พยายามคิดกับประเด็นที่ตัวเองกำลังเขียนไปให้ตลอด หากอ่านด้วยความคาดหวังว่าจะได้พบคำตอบอะไรสักอย่างเกี่ยวกับความเป็นคน หลายเรื่องในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้จะทำให้ผิดหวัง เพราะมันสะท้อนให้เห็นว่าผู้เขียนไม่ได้คิด หรือทำงานทางความคิดกับประเด็นที่กำลังนำเสนออย่างจริงจังเท่าที่ควร หลายเรื่องเป็นได้แค่งานปฏิกิริยา มีเนื้อสารที่แคบ หรือมีแต่คำถามที่ปราศจากการใคร่ครวญ

เรื่องสั้นใน ก่อนความหมายจะหายลับ เป็นเหมือนงานทดลอง มากกว่างานที่ผ่านการครุ่นคิดและมีประเด็นแหลมคม เป็นการนำเสนอชิ้นส่วนที่แหว่งวิ่นให้ผู้อ่านพิจารณาความหมายที่อาจบรรจุอยู่ข้างใน การเล่าเรื่องอืดเอื่อย ท่วงทำนองเป็นแบบแอนตี้พล็อต ต่อต้านการเร้าความสนใจคนอ่าน โครงเรื่องหลวมจนถึงไม่มี ไม่เหมาะกับผู้อ่านที่คาดหวังความสมบูรณ์แบบ แต่เป็นเรื่องสั้นที่สะท้อนขั้นตอนพัฒนาการของเรื่องสั้นไทยได้อย่างน่าสนใจ เพียงแต่ในกระบวนการสร้างสรรค์ยังให้น้ำหนักกับรูปแบบและท่วงทำนองเป็นหลัก และความหมายที่อยู่ในแต่ละชิ้นส่วนขาดพลังขับเคลื่อน

Comments