ออกไปข้างใน







ออกไปข้างใน ของ นฆ ปักษนาวิน เป็นรวมเรื่องสั้นที่ห่มคลุมไปด้วยบรรยากาศของอดีตและการหวนถึงอดีต หลายเรื่องยังมีกลิ่นอายแบบ i novel ของญี่ปุ่น หรืออันที่จริงก็คือเรื่องกระแสสำนึกแบบ naturalism แต่ก็มีหลายเรื่องที่คลี่หลายออกหรือเริ่มจะคลี่คลายจาก naturalism แล้ว เช่น กลุ่มจิตบำบัด, สวรรค์ชายขอบ, นอร์ท วินด์ บุ๊คส์, ประวัติย่อของบางสิ่งบางอย่างที่ยังไม่จบสิ้น,เรือนจำสองร้อยปี เป็นต้น

มุมมองการเล่าเรื่องหลัก ๆ ส่วนใหญ่ยังใช้มุมมองของตัวละครบุรุษที่หนึ่ง มีการสับ หรือกระโดดมุมมอง ไปเป็นบุรุษที่สอง และสาม แต่กระแสของเสียงเล่าก็มักจะเป็นบุรุษที่หนึ่งเพียงแต่อาจจะมีเสียงเล่าซ้อนกันหลายชั้น มีเพียงเรื่องเดียวที่ไม่ใช้เสียงเล่าของมุมมองนี้คือเรื่อง ประวัติย่อของบางสิ่งที่ยังไม่จบสิ้น (ซึ่งปรากฏว่าเป็นเรื่องที่อ่อนที่สุดในเล่ม)

เรื่องสั้นหลายเรื่องมีน้ำเสียงและให้มิติที่น่าสนใจ ในจำนวนนี้มีเรื่องสั้นที่กล่าวได้ว่าทรงพลังจนเรียกว่าเป็น "ชิ้นเอก" เลยทีเดียวคือเรื่อง "แผลเป็น" ในขณะที่เรื่องอย่าง กลุ่มจิตบำบัด, สวรรค์ชายขอบ, เต่ากระและฉลาม และ กฎแห่งคู่แปด ก็กล่าวได้ว่ามีน้ำเสียงที่ "ใหม่" อย่างน่าสนใจ

แม้ผมจะชอบเรื่องแผลเป็น และเห็นว่ากลุ่มจิตบำบัดก็โอเค แต่หมายเหตุไว้ชัด ๆ ตรงนี้ว่า ผมไม่ถือว่าเรื่องสั้นเรื่องใดในเล่มนี้คือ "การพูดถึงเหตุการณ์ 6 ตุลา โดยตรง"

รวมเรื่องสั้นเล่มนี้มี "ลูกเล่น" หนึ่งของผู้เขียน คือ มีตัวละครตัวหนึ่ง ชื่อ ปาริสุทธิ์ ปรากฏอยู่ในเรื่องสั้นหลายเรื่อง แม้เหตุการณ์ของแต่ละเรื่องจะดูเหมือนไม่เกี่ยวข้องกัน ลูกเล่นนี้ไม่ใช่สิ่งใหม่ เคยมีในวรรณกรรมไทยมาก่อนหน้านี้แล้ว ตัวละคร "ปาริสุทธิ์" นี้ นอกจากปรากฏในเรื่องสั้นแล้ว ยังปรากฏในงานศิลปะแขนงอื่นของผู้เขียนด้วย

ดูจากท่วงทีของการสร้างสรรค์แล้ว ปาริสุทธิ์ เป็นเหมือนกับเครื่องมือที่ใช้สร้าง "สัมพันธบทจำลอง" ขึ้นในงานของผู้สร้าง คือไม่ได้จำกัดแค่เพียงงานเขียน แต่ข้ามไปศิลปะแขนงอื่นด้วย อย่างไรก็ตาม เฉพาะจากที่อ่านรวมเรื่องสั้น เห็นว่า สัญญะ และ สัมพันธบท ของปาริสุทธิ์ยังไม่มีอะไรโดดเด่นหรือน่าสนใจเป็นพิเศษ

ภาษาที่ปรากฏในรวมเรื่องสั้น เป็นภาษาเรียบ ๆ และออกจะทื่อ ๆ แต่หลายช่วงหลายตอนก็เป็นการบรรยายที่ให้มิติได้อย่างน่าสนใจ จริง ๆ แล้วโดยภาพรวม ผมชอบภาษาของรวมเรื่องสั้นเล่มนี้พอสมควร ถ้าไม่นับข้อความเก้งก้าง ขาดเกินนิดหน่อย หรือทื่อจนบื้อที่ยังเห็นอยู่บ้าง

หากพูดถึงรวมเรื่องสั้นในโทนเดียวกันที่ออกมาในเวลาใกล้เคียงกัน ผมว่าโดยภาพรวม ออกไปข้างใน ของ นฆ ปักษนาวิน น่าสนใจกว่า แดดเช้าร้อนเกินกว่าจะนั่งจิบกาแฟ ของ จเด็จ กำจรเดช ที่ได้ซีไรต์ก่อนหน้า ออกไปข้างใน เป็นรวมเรื่องสั้นที่โดยภาพรวมแล้ว ถือว่า "มาตรฐานสูง" มีความน่าสนใจ ทั้งมุมมอง เนื้อสาร และท่วงทีการเล่าเรื่อง

แต่มีสิ่งที่ผมไม่ชอบอยู่สองสามอย่างในรวมเรื่องสั้นเล่มนี้ อันแรกคือชื่อเล่ม "ออกไปข้างใน" มันเชยไปหน่อย ถ้าผมเป็น บก. อาจจะแนะให้เอาชื่อเรื่องสั้นบางชื่อที่น่าสนใจในเล่มมาตั้งเป็นชื่อปกแทน เช่น "ประวัติย่อของบางสิ่งที่ยังไม่จบสิ้น" แต่เรื่องสั้นเรื่องนี้ก็คือสิ่งที่สองที่ผมไม่ชอบ เป็นเรื่องที่อ่อนที่สุดในเล่ม และเรียกว่าไม่เป็นสับปะรดขลุ่ยเอาเสียเลย (ภาษาแดนอรัญ) เห็นได้ชัดว่าพอขาดมุมมองบุรุษที่หนึ่ง (แบบปัจเจก) ไป ผู้เขียนก็เล่าเรื่องไม่ได้ความเลย

รวมเรื่องสั้นเล่มนี้มีลักษณะที่ยืมมาจาก "สัจนิยมมหัศจรรย์" และก็ใช้ได้อย่างมีเสน่ห์พอสมควร แต่มันไม่ใช่เรื่องสั้น "เซอเรียลลิสต์" อย่างที่มติชนโฆษณาไว้ในเว็บไซต์ข้างล่างแน่ ๆ ผมว่าบ้านเราเข้าใจคำนี้กันผิด ๆ และอ้างกันผิด ๆ อยู่มาก รวมเรื่องสั้นเล่มนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวกับเซอร์เรียลลิสต์สักเท่าไรหรอกครับ มันคือรวมเรื่องสั้นไทยร่วมสมัยที่หยิบยืมสไตล์อื่น ๆ มาอย่างหลากหลายนั่นแหละ

เรื่องสั้นเรื่องสุดท้าย "เรือนจำสองร้อยปี" ผู้เขียนพยายามใช้วรยุทธ์ขั้นสูงเพื่อขับสัญญะบางอย่าง แต่ลมปรานยังไม่ถึงขั้น เรื่องออกมาจืดและเก้งก้าง ผู้เขียนพยายามเขียนภาษาเก่าโดยไม่เข้าใจไวยากรณ์ การเรียงตัวของรูปประโยค เป็นอีกเรื่องที่เขียนออกมาไม่เป็นสับปะรดขลุ่ยสักเท่าไร

สังเกตว่านักเขียนรุ่นใหม่หลายคนพยายามจะเอาภาษาเก่ามาเล่นมาเขียน แต่เห็นได้ชัดว่าไม่เข้าใจไวยากรณ์ น้ำเสียงของคำเก่าจริง ๆ บางทีเอามาแต่คำ แต่การเรียงประโยคเป็นปัจจุบัน ก็เป็นคำเก่าในไวยกรณ์ใหม่ บางทีก็เอาคำต่างยุคต่างสมัยมาปนกันมั่วไปหมดจน "เวลา" ที่ฝังอยู่ในคำเละและหลง และไม่ได้สื่อความอะไรเลย สาเหตุก็เพราะประสบการอ่านเอกสารเก่าน้อยเกินไป

เพียงคนเดียวที่เข้าใจไวยากรณ์ของคำเก่าจริง ๆ และทำได้ดีในเรื่องนี้คือ อติภพ ภัทรเดชไพศาล

สรุปโดยรวม ออกไปข้างใน ก็เป็นรวมเรื่องสั้นที่ผมชอบ (มากกว่าไม่ชอบ) เล่มหนึ่ง มีความน่าสนใจ และจริง ๆ ดูจากคุณภาพแล้วควรจะเข้ารอบซีไรต์นะ อย่างไรก็ตาม ผมไม่ได้อ่านเรื่องอื่นที่เข้ารอบ รวมทั้งเล่มที่ได้รางวัลด้วย (เคยอ่านเฉพาะเรื่องอสรพิษ กับอีกเรื่องที่เคยลงอันเดอร์กราวจ์ นอกนั้นไม่ได้อ่านจึงบอกภาพรวมของเล่มนี้ไม่ได้) แต่อย่างน้อยมันก็เหนือกว่ารวมเรื่องสั้นซีไรต์เล่มก่อน (แดดเช้าฯ) ซึ่งถ้า "ออกไปข้างใน" จะได้ซีไรต์ปีนี้ก็ไม่แปลก นอกจากเล่มอื่นที่เข้ารอบจะดีกว่าจริง ๆ (แต่ผมว่ามีโอกาสที่กรรมการห่วยมากกว่าเล่มอื่นดีกว่าจริง ๆ)


7-11-14

Comments