แม่นาค
แม่นาค
เป็นนิยายเรื่องล่าสุดของนักเขียนนักหนังสือพิมพ์นามสุจิตต์ วงษ์เทศ
พิมพ์ลงเป็นตอน ๆ ในมติชนสุดสัปดาห์
จากนั้นจึงได้รับการพิมพ์เป็นหนังสือเล่มโดยสำนักพิมพ์สามัญชน
แม่นาค ไม่ใช่แม่นาคพระโขนง
และไม่มีอะไรเกี่ยวกับพระโขนง ไม่มีอะไรเกี่ยวกับผีตายทั้งกลม
หากจะมีอะไรเกี่ยวกับผีก็เป็นผีแถนผีฟ้าไม่ใช่ผีคน
และนิยายเรื่องนี้ก็โปรยปกไว้ใต้ชื่อเรื่องว่า นวนิยายฉายวิถีชีวิตบรรพชนคนไทย
ดินอยู่ล่าง ฟ้าแถนอยู่บน
ผีกับคนด้นแดนแล่นไปมาหากันไม่ขาดหาย เหมือนลมปลายไม้กับลมยอดหญ้า
น้ำเต็มนา ปลาเต็มหนอง ข้าวตั้งท้องเต็มทุ่งจนแก่
บางต้นออกรวงได้แดดลมแรง มีเม็ดเปลือกทั้งอ่อนแข็งค้อมโค้งลงดินน้ำ
บ้านพานเมืองแผนมีน้ำเพียงดิน
แล้วนองดาดเต็มนาเต็มหนอง ในหุบห้วยละหานคูคลองกับแม่น้ำเนื่องแน่นไป
ในเมื่อสิ้นน้ำฟ้าฟาดฟองหาว ปลาดินดาวเดือนแอ่น ลมกล้าป่วนไปมาก็ลดลง แล้วค่อย ๆ
ผ่อนคลาย
แม่นายเป็นแม่หญิงผู้ใหญ่แห่งลุ่มน้ำบ้านพานเมืองแผน
คนทั้งหลายในลุ่มน้ำมีหลายบ้าน พากันยกย่องแม่หญิงขึ้นเป็นนาย เป็นหัวหน้า
เป็นผู้มีอำนาจขาดสุดในลุ่มน้ำ...
นวนิยายเรื่อง แม่นาค
เปิดเรื่องขึ้นด้วยการบรรยายฉากภาพของ ‘บ้านพานเมืองแผน’
ชุมชนชาติพันธุ์ซึ่งอาศัยอยู่ในที่ราบลุ่มแม่น้ำ
มีลำน้ำสายใหญ่คือแม่น้ำจระเข้ไหลไปออกชายเลนโคลนตมกว้างใหญ่ใกล้ทะเลสมุทร
หมู่ชนเหล่านี้อยู่กันเป็นบ้านเป็นหมู่ แยกหมู่แยกบ้านกันไปตามโคตร
แต่ละโคตรก็จะมีผีประจำโคตรของใครของมัน
แม่นาย หรือ แม่นาค
คือผู้นำของหมู่ชนเผ่าพันธุ์ซึ่งเป็นใหญ่ตลอดลุ่มน้ำกว้างไกลนี้
เนื่องจากผีแถนให้ผู้หญิงเป็นนายผู้ชายเป็นบ่าว
มีผู้สาวผู้บ่าวคู่หนึ่งตะคุ่ม ๆ
ใบพุ่มไม้มืด หมอบคร่อมกันกระเด้งกระเด้ากระดกกระดนก้นกระโด่
“มึงเลี้ยงกูเป็นบ่าวไหม” ผู้บ่าวถามเบา ๆ
“ถ้าขยันงานกูเลี้ยง” ผู้สาวลุกขึ้นนั่ง “ขี้เกียจงานกูไม่เลี้ยง”
ผู้คนชาวบ้านพานเมืองแผนนับถือผีแถนผีฟ้าซึ่งถือเป็นผีที่ให้กำเนิดผู้คนออกมาจากน้ำเต้าปุง
และต่อมาก็สอนให้ทำไร่ทำนา ชาวบ้านพานเมืองแผนต่างเซ่นไหว้ผีฟ้าออกลูกหลานสืบกันมาจนกระทั่ง
‘แขกหัวโล้น’ เดินทางมาถึงและกล่าวเทศนาผู้คนชาวบ้านพานเมืองแผนว่า
ผีแถนผีฟ้าไม่มี มนุษย์เกิดจากธรรมชาติ
กาลก่อนจักรวาลเป็นท้องน้ำล้ำลึกนิ่มนวลและมืดมน ไม่มีตะวันไม่มีเดือนไม่มีดาว...
กล่าวว่าสุจิตต์ วงษ์เทศจำลองสถานการณ์การเข้ามาเผยแพร่ศาสนาพุทธเป็นครั้งแรกของพระจากอินเดียในพื้นที่ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาขึ้นในนิยายเรื่องแม่นาคก็ไม่ผิด
แน่นอนว่าฝ่ายแม่นาคผู้เป็นใหญ่แห่งบ้านพานเมืองแผนย่อมเห็นคำสอนของเหล่าสมณะเป็นเรื่องเล่าเหลวไหล
ในขณะที่ฝ่ายแขก ทั้งสมณะแขกพราห์มและเหล่าพ่อค้าวาณิชจากเมืองแขกทั้งขบวนก็มองเห็นชาวบ้านพานเมืองแผนเป็นหมู่ชนล้าหลังงมงาย
เป็นพวกวรรณะต่ำเช่นเดียวกับพวกจัณฑาล ขณะเดียวกัน
ชาวต่างถิ่นที่เข้ามาแลกเปลี่ยนสินค้ากันที่บ้านพานเมืองแผนก็ไม่ได้มีแต่พวกแขกเท่านั้น
ยังมีพวกจุ่นจู๊พวกคนเมืองกว้างเข้ามาทำมาค้าขายด้วยเช่นกัน
ชาวบ้านพานเมืองแผนแยกอยู่กันเป็นบ้าน
วันดีคืนดี บ้านอื่นก็ยกคนเข้าปล้นบ้านของแม่นาค
หมู่ชาวบ้านพานเมืองแผนต่างปล้นกันไปปล้นกันมาก็หลายครั้งหลายครา
ฝ่ายแพ้ก็ขอขมาส่งเครื่องสังเวยมาเซ่นไหว้
อาวุธของชาวบ้านพานเมืองแผนมีเพียงหน้าไม้ หอก แหลน หลาว
ซึ่งด้อยกว่าอาวุธทันสมัยของคนแขกหรือชาวเมืองกว้างอย่างธนูศรหรือตาวเหล็กตาวแสง
ทั้งชาวแขกและชาวเมืองกว้างต่างก็มองเห็นผู้คนบ้านพานเมืองแผนเป็นคนป่าล้าหลัง
และที่ขัดหูขัดตาพ้องกันก็คือ คนเผ่าเหล่านี้ยกผู้หญิงขึ้นเป็นใหญ่
ซึ่งเป็นสิ่งที่วิปริตผิดเพี้ยนในสายตาของทั้งชาวแขกและชาวเมืองกว้าง
ในที่สุดทั้งฝ่ายแขกและฝ่ายชาวเมืองกว้างก็ตกลงผลประโยชน์กัน
โดยฝ่ายแขกยินยอมแลกเปลี่ยนสินค้าโดยเสียเปรียบกับชาวเมืองกว้าง
แต่มีเงื่อนไขห้ามพวกจุ่นจู๊และชาวเมืองกว้างขัดขวางชาวแขก
ขบวนพ่อค้าวาณิชสมณะพราห์มแขกนั้นไม่ได้มาค้าขายเพียงอย่างเดียว
แต่ถือคำสั่งราชาให้มาเผยแพร่ศาสนาพุทธให้ลงหลักปักฐานยังบ้านพานเมืองแผน
ในที่สุดทั้งพวกแขกและพวกเมืองกว้างก็ล้มทำลายพิธีบูชายัญเซ่นผีฟ้าของแม่นาค
และสถาปนาผู้ชายขึ้นเป็นใหญ่ในดินแดนลุ่มแม่น้ำ
นิยายเรื่องแม่นาค
เต็มไปด้วยการตีความทางประวัติศาสตร์ ไม่เพียงบอกเล่ารากเหง้าที่มาของคนไทย
ยังบอกเล่าที่มาของคำไทยที่ใช้กันอยู่ในปัจจุบันจำนวนมาก
พิธีทำขวัญนาคให้กับผู้ชายในการบวชก็ได้รับการตีความว่าเป็นการประนีประนอมกันระหว่างพุทธกับผี
ไม่ใช่พุทธกับพราห์มอย่างที่หลายคนเข้าใจ
แม่นาคเขียนขึ้นด้วยลีลาภาษาสำนวนอย่างเรื่องเล่าที่แทรกคำพ้องคำคล้องไว้ขับเล่าคำอย่างรื่นปาก
เป็นนิยายตีความประวัติศาสตร์ขึ้นใหม่มากกว่าจะอิงกับประวัติศาสตร์เล่มที่มีอยู่
และต้องกล่าวย้ำว่าเป็นการตีความของผู้เขียนนามสุจิตต์ วงษ์เทศ
นามซึ่งไม่อาจถูกปฏิเสธจากแวดวงวิชาการประวัติศาสตร์
นอกจากนี้แล้วผู้เขียนยังเล่นล้อกับเพศสภาพและแนวคิดเกี่ยวกับการกดขี่ทางเพศเอาไว้อย่างแนบเนียน
(เช่นการให้ผู้ที่ตี ‘ดาบฟ้าร้อง’ เป็นกะเทย)
นี่จึงเป็นนิยายที่ต้องอ่านด้วยประการทั้งปวงสำหรับคนไทย
(ผู้หญิง) โดยเฉพาะ
สุจิตต์ วงษ์เทศ เป็นนักเขียน นักหนังสือพิมพ์
และนักประวัติศาสตร์ ที่มีบทบาทกว้างไกลทั้งในแวดวงหนังสือพิมพ์ แวดวงวรรณกรรม
และแวดวงประวัติศาสตร์
เป็นผู้ร่วมบุกเบิกก่อตั้งหนังสือพิมพ์ ประชาชาติร่วมกับขรรชัย บุนปาน
เมื่อครั้งก่อนเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519
ซึ่งเป็นหนังสือพิมพ์ก้าวหน้าที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงก่อนถูกปิดไปหลังเหตุการณ์
6 ตุลา
ภายหลังสุจิตต์ได้ร่วมบุกเบิกก่อตั้งหนังสือพิมพ์ มติชน
และเป็นผู้ก่อตั้งนิตยสาร ศิลปวัฒนธรรม
สุจิตต์มีผลงานวรรณกรรมตั้งแต่ครั้งยังเป็นนักเรียนนุ่งขาสั้น
ผลงานวรรณกรรมที่โดดเด่นมีเป็นจำนวนไม่น้อย เช่น รวมเรื่องสั้น ขุนเดช นิยาย หนุ่มหน่ายคัมภีร์
และบทกวีอีกจำนวนมาก อย่างไรก็ดี
ในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาสุจิตต์ห่างหายไปจากการเขียนงานวรรณกรรม
โดยมีผลงานวิชาการประวัติศาสตร์ออกมาเป็นจำนวนมาก
แม่นาค จึงเป็นผลงานวรรณกรรม ของสุจิตต์ วงษ์เทศ เล่มแรกหลังจากนามนี้แทบจะถูกลืมไปแล้วในแวดวงวรรณกรรม
กระนั้นลีลาเรื่องเล่าของสุจิตต์ก็ยังคงหลากไหลอย่างทรงพลัง
พร้อมถูกขับให้คมเข้มขึ้นด้วยแง่มุมทางประวัติศาสตร์ไทย สมกับที่สำนักพิมพ์โปรยคำไว้ที่ปกหลังว่า “สุจิตต์ วงษ์เทศตัวจริงกลับมาแล้ว!”
พิมพ์ครั้งแรก นิตยาสาร IMAGE
Comments
Post a Comment