เขียนฝันด้วยชีวิต
นับเป็นเวลาหลายสิบปีที่บรรณพิภพของไทยปราศจากงานที่เรียกว่า
“สารนิยาย” อย่างแท้จริง ตั้งแต่ที่สมบูรณ์ วรพงษ์ เขียน
รถเที่ยวสุดท้ายจากตองยี แล้ว
ดูเหมือนงานวรรณกรรมในส่วนที่ไม่ได้เป็นเรื่องแต่งจะมีแต่บทบันทึกการเดินทาง
สารคดีท่องเที่ยว ข้อเขียนสั้น ๆ
ที่มาจากปรากฏการณ์ในชีวิตซึ่งมักปรากฏในรูปแบบของบันทึก ความเรียง หรือเรื่องสั้น
แทบไม่มีชิ้นงานอันโดดเด่นที่อาศัยทักษะการประพันธ์ที่ต้องร้อยเรียงโครงเรื่องขนาดยาวอย่างนิยายปรากฏขึ้นเลย
“สารนิยาย” คือรูปแบบการเขียนเรื่องจริงที่อาศัยศิลปะการประพันธ์และโครงสร้างของนิยายในการนำเสนอเรื่อง
มีการวางโครงเรื่อง ลำดับการเล่าเรื่อง สร้างตัวละคร
และพัฒนาตัวละครในลักษณะเดียวกับนิยาย
เพียงแต่ข้อจำกัดคือสิ่งที่เขียนทั้งหมดนั้นเป็นเรื่องจริง
ไม่ใช่จินตนาการของผู้เขียน และ เขียนฝันด้วยชีวิต ของ ประชาคม ลุนาชัย ก็เป็นอัตชีวประวัติ
ที่สามารถนับเป็น “สารนิยาย” ที่เข้มข้นและชวนอ่านที่สุดเล่มหนึ่ง
ประชาคม ลุนาชัย
คือนามปากกาที่ถือกำเนิดขึ้นในช่วงสิบกว่าปีมานี้ เป็นนามที่โดดเด่นและค่อย ๆ
ได้รับการยอมรับขึ้นเป็นลำดับในวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์
กระทั่งปัจจุบันก็กล่าวได้ว่านามปากกานี้คือนักเขียนแถวหน้าของวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์
มีสถานะศักดิ์ศรีเคียงข้างกันไปกับนามปากกาที่ถือกำเนิดไล่เลี่ยกันมา ไม่ว่าจะเป็น
วินทร์ เลียววาริณ, กนกพงศ์ สงสมพันธ์,
เดือนวาด พิมวนา, ทินกร หุตางกูร, ศักดิ์ชัย ลัคนาวิเชียร ฯลฯ หรือแม้แต่นามที่ตามมาทีหลังแต่ popular
อย่างยิ่ง เช่น ปราบดา หยุ่น
นักเขียนกลุ่มนี้ ยกเว้นปราบดา หยุ่นแล้ว ถือเป็นผลิตผล
หรือเป็นนักเขียนที่เติบโตขึ้นจากนิตยสาร ช่อการะเกด
นิตยสารเรื่องสั้นที่มีบทบาทอย่างยิ่งในการผลิตนักเขียนคุณภาพให้กับวงการวรรณกรรมสร้างสรรค์
ซึ่งปิดตัวไปแล้วเมื่อเกือบสิบปีก่อน
แม้ว่า ประชาคม ลุนาชัย
จะไม่ใช่นามที่โดดเด่นซึ่งถูกพูดถึงเป็นนามแรก ๆ ในหมู่นักเขียนหัวก้าวหน้า
แต่ผู้คนในวงวรรณกรรมสร้างสรรค์ต่างก็มิได้กังขากับสถานะนักเขียนวรรณกรรมสร้างสรรค์ของประชาคม
ครั้งหนึ่ง
เรื่องสั้นของประชาคมที่ได้รับรางวัลช่อการะเกด เป็นเรื่องสั้นที่จัดเป็น
งานสัจนิยมมหัศจรรย์ ซึ่งยังเป็นที่ตื่นเต้นกันในหมู่นักเขียนวรรณกรรม ณ
ช่วงเวลานั้น
แต่ภาพรวมผลงานที่ผ่านมาทั้งหมดของเขาในช่วงสิบกว่าปีนี้
นักวิจารณ์คงยินดีที่จะวางประชาคมไว้ในตำแหน่งของนักเขียนสัจนิยมมากกว่านักเขียนที่ทดลองสไตล์และรูปแบบใหม่
ๆ อยู่ตลอดอย่างวินทร์ เลียววาริณ
เป็นที่ทราบกันดีถึงประวัติชีวิตอันโชกโชนของเขาก่อนจะไต่เต้าขึ้นเป็นนักเขียนมีชื่อของบรรณพิภพไทย
และผลงานส่วนใหญ่ของประชาคมก็เชื่อกันว่าเป็นผลิตผลจากชีวิตอันชุ่มโชกของเขา เมื่อเขาลงมือเขียนประวัติชีวิตของตนเองอย่างตรงไปตรงมาในรูปแบบของนิยาย
จึงไม่มีเหตุผลใดเลยที่คอวรรณกรรมจะไม่รู้สึกอยากอ่าน “เขียนฝันด้วยชีวิต” เล่มนี้
เขียนฝันด้วยชีวิต เป็นหนังสือที่กินใจ
และมีเสน่ห์ ด้วยน้ำเสียงซื่อ ๆ
เล่าเรื่องราวด้วยชั้นเชิงที่ทำให้ผู้อ่านสนิทใจกับตัวละคร ถึงบทฟูมฟายก็ทำได้อย่างไม่เลยเถิด
จึงทำให้ผู้อ่านสามารถสะเทือนใจและติดตามตัวละครต่อไปได้อย่างกระตือรือร้น
ทั้งหมดเป็นเรื่องของหนุ่มบ้านนอกที่ออกจากบ้านมาผจญภัยยังเมืองหลวง
และเส้นทางชีวิตก็นำเขาไปยังสถานที่และชะตากรรมมากมาย ตลอดเส้นทางการผจญชีวิตนี้
สิ่งหนึ่งที่หนุ่มคนนี้ต่อสู้จนล้มแล้วลุกไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้งก็คือ
การเขียนหนังสือ
จากจุดที่เริ่มต้นเปิดอ่านหนังสือเล่มนี้
ผู้อ่านย่อมตระหนักอยู่แล้วถึงสถานะและชื่อเสียงของ ประชาคม ลุนาชัย ดังนั้น
สิ่งที่เร่งเร้าการอ่านย่อมไม่ใช่คำถามว่าตัวละครจะสามารถไปถึงจุดหมายปลายทางได้ไหม
แต่เป็นความใคร่รู้ใคร่สนใจว่าตัวละครจะไปถึงจุดหมายปลายทางได้ “อย่างไร” ซึ่งตรงส่วนนี้นี่เองที่ประชาคมสามารถดึงเอา
“สาระสำคัญ” ของชีวิตตัวเองออกมาได้อย่างยอดเยี่ยมและงดงามยิ่ง
จนเมื่ออ่านจบ ผู้อ่านย่อมจะเข้าถึงความหมายอันเป็นผลิตผลของชีวิตอันโชกโชนเยี่ยงนั้น
ซึ่งเป็นสิ่งที่มีค่าไม่ว่าภูมิหลังของคนอ่านคนนั้นจะเหมือนหรือแตกต่างจากตัวละครเพียงใด
สำหรับผู้อ่านที่ละเอียดลออและคาดหวังถึงคุณค่าทางวรรณกรรมแล้ว
ก็ยังจะได้รับสิ่งที่มุ่งหวังอย่างแน่นอน
เพียงแต่อาจจะรู้สึกว่าตัวละครออกจะขี้สงสารตัวเองไปหน่อยเท่านั้นเอง
แต่นั่นก็ต้องนับเป็นส่วนหนึ่งของความสัตย์ซื่อที่ตัวเรื่องเปิดเผยออกมา
ตามธรรมเนียมของชีวประวัติทำนองนี้
หลังส่วนเนื้อเรื่องจบโดยบริบูรณ์แล้ว
ก็มักจะมีภาคผนวกในตอนท้ายเพื่อให้ผู้อ่านได้ทราบถึงผลปลายท้ายสุด
หรือสิ่งที่เกิดขึ้นหลังตัวเรื่อง ว่าตัวละครประสบความสำเร็จหรือไม่สำเร็จอย่างไร
แต่เนื่องจากนี่เป็นอัตชีวิตประวัติ เป็นการที่ผู้เขียนเขียนถึงตัวเอง
และผู้เขียนเองก็เป็นนักเขียน ดังนั้น
เข้าใจว่าเป็นความขัดเขินของตัวผู้เขียนเองที่จะใส่ภาคผนวกดังกล่าวเข้ามา
จึงมีเพียงข้อความสั้น ๆ ในหน้าสุดท้ายว่าหลังจากนั้น ประชาคม ลุนาชัย
มีผลงานทั้งหมดกี่เล่ม
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ผู้อ่านทั่วไปจะได้รับอรรถรสและความหมายอย่างน่าพึงพอใจ
ขณะเดียวกันผู้อ่านที่เป็นนักเขียน หากเขียนหนังสือมาในเวลาไล่เลี่ยกับประชาคม
ก็จะได้หวนรำลึกถึงความหลังหลายช่วงตอน หากเป็นนักเขียนรุ่นหลัง
ก็จะได้แรงบันดาลใจใหญ่หลวง
หรือหากเป็นนักเขียนรุ่นก่อนก็จะได้ทั้งแรงบันดาลใจและการหวนรำลึก
พิมพ์ครั้งแรก วารสารหนังสือใต้ดิน
Comments
Post a Comment