วิจารณ์สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลกรณีไม้หนึ่ง ก. กุนที



1
กรณีว่าทำไมการพูดถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับไม้หนึ่งในตอนนี้จึง ไม่แฟร์และไม่ถูกต้อง อันที่จริงเรื่องนี้เคยเถียงกันไปรอบหนึ่งแล้ว และสมศักดิ์จำนนไปแล้วในการเถียงกันที่สเตตัสของคุณมา ในที่นี้ผมจะตอบสั้น ๆ อีกครั้งหนึ่ง อย่างที่ตอบไปหลายครั้งแล้ว

มันไม่แฟร์เพราะไม่มีใครสามารถที่จะรู้หรือเข้าถึงความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ในสภาพที่ฝ่ายซึ่งเป็น คู่กรณีของไม้หนึ่ง ก็คือ คสช. กำลังครองอำนาจอยู่ และมีนักโทษการเมืองอยู่ในศาลทหาร พูดง่าย ๆ ก็คือกำลังอยู่ในศาลของคู่กรณี สภาพแบบนี้ไม่ใช่สภาพ เปิดที่จะแสวงหาข้อเท็จจริง หรือเปิดโอกาสให้ข้อเท็จจริงปรากฏ การพูดฝ่ายเดียว พูดจากข้อมูลที่คน ๆ เดียวมีนั้น เป็นการไม่ยุติธรรมในเวลาที่สภาพของเรื่องยังคาอยู่ในกระบวนกฎหมายที่ไม่ยุติธรรม (คือคู่กรณีเป็นฝ่ายพิพากษาจำเลย)

เหตุที่ต้องรอให้สภาพเปิดกว่านี้จึงพูดข้อเท็จจริงออกมาก็เพื่อเปิดโอกาสให้ข้อมูลอื่น ๆ โดยเฉพาะข้อมูลที่ ขัดแย้งกับผู้พูด สามารถที่จะแสดงตัวออกมาได้

สมศักดิ์พูดถึงข้อเท็จจริงที่เป็นผลร้ายต่อผู้ตาย คือ ไม้หนึ่ง ก. กุนที โดยอ้างข้อมูลที่เขาได้ยินมาจากคนอื่น ในสภาพที่ คสช. ซึ่งเป็นฝ่ายตรงข้ามของเสื้อแดงกำลังครองอำนาจ มันก็คือสภาพที่ใครก็ไม่กล้าออกมาดีเฟนด์ไม้หนึ่ง ไม่สามารถที่จะเอาข้อมูลออกมาโต้แย้งสมศักดิ์ได้ถ้าเขาต้องการทำ ผลก็คือคำพูดของสมศักดิ์ก็จะถูกพูดในสภาพปิดที่ข้อมูลปรากฏจากแหล่งเดียว คือแหล่งที่สมศักดิ์ได้มา ไม่ปรากฏข้อมูลจากแหล่งอื่น ๆ มาเทียบเคียง ไม่ปรากฏมุมมองอื่น ๆ ที่อาจจะตีความข้อมูลเดียวกันแตกต่างกันมาเปรียบเทียบ

ทั้งนี้ ต้องไม่ลืมว่า สมศักดิ์รู้จักกับไม้หนึ่งเป็นการส่วนตัว และมีเรื่องทะเลาะขัดแย้งกันก่อนที่ไม้หนึ่งจะถูกยิงตาย ในที่นี้ ถ้ามองข้อมูลของสมศักดิ์ในฐานะปากคำทางประวัติศาสตร์ มันก็เป็นปากคำที่ต้องประเมินไว้ก่อนว่ามีอคติ หรืออย่างน้อยต้องตระหนักถึงอคติที่มีความเป็นไปได้

สำคัญที่สุดก็คือ กรณีนี้ ไม้หนึ่งถูกฆาตกรรม ซึ่งตามสภาพปรกติแล้วคือผู้เสียหาย แต่โดยสภาพที่เป็นอยู่ซึ่งฝ่ายตรงข้ามของไม้หนึ่งเป็นฝ่ายชนะทางการเมือง คือมีอำนาจทางการเมืองอยู่ จากสภาพของผู้เสียหาย ไม้หนึ่งถูกทำให้อยู่ในตกอยู่ในสภาพของ จำเลยไปพร้อมกันด้วย ในสภาพเช่นนี้ การพูดตอกย้ำของสมศักดิ์ นอกจากจะไม่แฟร์ที่พูดในสภาพปิดดังที่กล่าวไปข้างต้นแล้ว ยังเป็นการสนับสนุนการทำให้การฆาตกรรมของไม้หนึ่งมีความชอบธรรมขึ้นด้วย ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ ไม่ว่าจะโดยรู้ตัวหรือไม่

2
นี่ก็ 4-5 วันเข้าไปแล้วจากวันที่สมศักดิ์บอกว่าจะต่อตอนที่ 2 ผมสงสัยอยู่นะว่าสมศักดิ์จะเขียนตอนที่ 2 ได้อย่างไร ในเมื่อ แกนความคิดของตอนแรกนั้นมีปัญหา ซึ่งอันที่จริงก็เป็นแกนความคิดที่สมศักดิ์ใช้อภิปรายเรื่องความรุนแรงของทั้ง 2 ปีกขั้วการเมืองมาตลอด

นี่คือแกนความคิดของสมศักดิ์

ทั้งสองฝ่าย ยังไม่พร้อมจะเผชิญกับความจริงทั้งหมดของเรื่องนี้....ผมก็ยังไม่คิดจะอภิปรายเต็มที่ เพราะทั้งสองฝ่ายยังไม่พร้อมจะฟัง

ปัญหาสำคัญของแกนความคิดนี้คือมันละเลย ความจริงที่สำคัญที่สุดที่กำลังดำรงอยู่แบบ "เฉพาะหน้า" ในเรื่องที่เกี่ยวกับความรุนแรงก็คือ โครงสร้างความไม่เท่าเทียมกันอย่างรุนแรงของการดำเนินคดีต่อผู้กระทำผิด

ขณะนี้ใครคือผู้ทรงอำนาจสูงสุด?

ไม่ใช่ คสช. หรอกหรือ? นายกรัฐมนตรีไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทรโอชาหรอกหรือ?

ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ทรงอำนาจใน คสช. เหล่านี้กับคนเสื้อแดงคืออะไร?

ไม่ใช่คือคู่กรณีในเหตุการณ์ปี 2553 ที่ยังเป็นคดีความอยู่หรือ?

สมศักดิ์พูดว่า ทั้งสองฝ่าย ยังไม่พร้อมจะเผชิญกับความจริงทั้งหมดของเรื่องนี้....ผมก็ยังไม่คิดจะอภิปรายเต็มที่ เพราะทั้งสองฝ่ายยังไม่พร้อมจะฟังโดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างความไม่เท่าเทียมที่รุนแรงนี้

ความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ทรงอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จในรัฐเผด็จการที่เป็นอยู่ในขณะนี้กับผู้ต้องหาเสื้อแดงคือ คู่อริ

ความสัมพันธ์ระหว่าง ผู้ทรงอำนาจรัฐเบ็ดเสร็จในรัฐเผด็จการที่เป็นอยู่ในขณะนี้กับผู้ต้องหาฝ่าย กปปส. คือ แนวร่วม (ทั้งแนวร่วมตอนปี 53 และช่วงม็อป กปปส.)

ผมต้องยกหลักฐานต่าง ๆ ที่เคยอภิปรายไปแล้วขึ้นมากล่าวซ้ำไหม? ปากคำของนายสุเทพว่าประยุทธ์ร่วมวางแผนมาด้วยกันชี้มูลไปในทิศทางใด? ใครเป็นคนบัญชาการเหตุการณ์ปราบเสื้อแดงในปี 53?

นี่คือข้อเท็จจริงที่สะท้อนโครงสร้างของความไม่เท่ากันอย่างรุนแรงในระบบยุติธรรมขณะนี้ที่มีต่อผู้ต้องหา โดยเฉพาะในคดีความที่เกี่ยวข้องกับความรุนแรง

ในสภาวะเช่นนี้หากเราทวงถามสำนึกและข้อเท็จจริงจากทั้งสองฝ่ายเท่า ๆ กันตามแนวคิดของสมศักดิ์ มันก็คือเรากำลังเพิกเฉยต่อข้อเท็จจริงว่า ฝ่ายหนึ่งที่ถูกเราทวงถามอยู่ในฐานะที่ปลอดภัยกว่าอีกฝ่ายหนึ่งมาก และอีกฝ่ายที่ถูกเราทวงถามกำลังอยู่ในสถานภาพที่แทบไม่อาจป้องกันตนเองได้เลย

ไม่ว่าคนเสื้อแดงจะต้องการโปรฮาร์คคอร์ในช่วง กปปส. หรือช่วงปี 53 ณ ขณะนี้พวกเขาแสดงออกได้เท่า ๆ กับ กปปส. หรือ?

ใส่เสื้อสีแดงคนยังไม่กล้าใส่กันเลย

การไปถามคนทั้งสองฝ่ายแบบเท่า ๆ กันว่า ทั้งสองฝ่ายพร้อมจะยอมรับความจริง เผชิญความจริงทั้งหมด (เกี่ยวกับความรุนแรง) ตอนนี้ ก็คือคุณไปถามในขณะที่ฝ่ายหนึ่งมีเสรีภาพ ส่งเสียงได้ตามปรกติ กับอีกฝ่ายหนึ่งถูกปิดปากให้กลายเป็นใบ้

พวกนักโทษเสื้อแดงจะมีปัญญาตอบคุณหรือว่า ครับ...ผมผิดไปแล้วครับ ผมสำนึกแล้ว พวกที่ลี้ภัยหัวซุกหัวซุนสามารถเสนอหน้ากลับมาในสังคมแล้วบอกว่า ครับ....ผมผิดไปแล้วครับ... พวกที่เคยเชียร์ ๆ ความรุนแรงทางฝั่งแดงจะกล้าออกมาแสดงตัวแบบเปิดเผย? พวกแกนนำจะกล้าแสดงความเห็นเรื่องนี้อย่างเปิดเผย?

แล้วถามว่าสภาพแบบเดียวกันนี้เกิดขึ้นกับฝั่ง กปปส. หรือไม่?

ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายสามารถแสดงออกด้วยการจัดงานเลี้ยงฉลอง ทำเสื้อยืด รวมตัวกันเชียร์มือปืนอยู่หรือ?

แล้วคุณก็บอกว่า พวกคุณสองฝ่ายพร้อมจะเผชิญข้อเท็จจริงไหม?

นี่คือความผิดพลาดของแกนคิดหลักในข้อเขียนของสมศักดิ์

การอภิปรายของสมศักดิ์เรื่องป๊อปคอร์นจึงไม่มีความหมายอะไรเลย เช่น

แต่พูดกันตรงๆ ผมคิดว่า จะโดยรู้ตัวหรือไม่รู้ตัว ฝ่ายที่เชียร์เสื้อแดงจำนวนมาก (รวมทั้งระดับนักวิชาการ หรือคนทำสื่อ) เอาการ "ทำแต้ม" กรณีป๊อบคอร์น (ซึ่งต้องย้ำอย่างที่เพิ่งเขียนไปว่า ลำพังที่เขียนๆกันอย่างทีผมยกมา มันไม่ได้ผิดอะไร ที่มีปัญหาคือที่จะกล่าวต่อไปนี้) มา "กลบ" หรือหลีกเลี่ยงที่จะเผชิญกับความจริงของด้านที่ "อั๊กลี่" เกี่ยวกับการใช้อาวุธของฝ่ายเสื้อแดงเอง

ถามว่า การไม่หลีกเลี่ยงที่จะเผชิญหน้ากับความจริงของด้านที่อั๊กลี่เกี่ยวกับการใช้อาวุธของฝ่ายแดงคืออะไร คือการที่ต้องคอยย้ำว่าเสื้อแดงรุนแรงบ่อย ๆ หรือย้ำคู่กันเวลาที่เรสเรื่องนี้ของ กปปส. ในสภาพที่เสื้อแดงพูดไม่ได้ ตอบคุณไม่ได้ด้วยซ้ำ ขณะที่อีกฝ่ายสามารถแสดงออกแบบไม่ยี่ระจนถึงขนาดไปรวมตัวกันสนับสนุนมือปืนได้?

การเผชิญหน้าที่คุณไปทวงถามเขาแบบนี้ โดยไม่คำนึงถึงโครงสร้างกดทับที่เป็นจริงอยู่อย่างนี้นะครับ คนสองคนทะเลาะกัน คนหนึ่งลงไปกองกับพื้นเลือดอาบ อีกคนยืนเต้นระบำ คุณบอกทั้งสองฝ่ายว่า พวกคุณพร้อมจะเผชิญหน้ากับความจริงไหม?

คนแม้จะถูกดำเนินคดีก็ต้องมีหลักประกันเรื่องความปลอดภัยก่อน ทำไมเวลาตำรวจจับคนร้ายที่บาดเจ็บถึงต้องเอาไปรักษาก่อนจะดำเนินคดี? ไม่ใช่หลักประกันเรื่องความปลอดภัยหรือ? และขณะนี้ หลักประกันในเรื่องนี้ระหว่าง กปปส. และ เสื้อแดง เท่ากันหรือไม่?

การพูดถึงความรุนแรงตอนนี้ ทำเท่ากันไม่ได้ครับ เพราะโดยสภาพข้อเท็จจริงของโครงสร้างฯ มันไม่เท่ากันอยู่ นี่ไม่เกี่ยวกับเรื่องพวกใครเลย แต่เกี่ยวกับความสามารถที่จะตอบสนองศีลธรรม, เกี่ยวกับความสามารถในการแสดงออก และเกี่ยวกับหลักประกันในเรื่องความปลอดภัยและความยุติธรรมที่ไม่เท่ากันอยู่

14-15 พฤษภาคม 2016

Comments