คลาด
ที่นั่น
ผมเห็นเมฆลอยผ่านยอดไม้
สายลมเคลื่อนเขย่ากิ่งและใบ คล้ายเพื่อนตบไหล่เพื่อน
เบา เบา บาง บาง
รสของน้ำตานั้นไม่เค็มมาก
อย่างน้อยก็ไม่ขมคาวเท่าการเผลอกินชื่อเสียงในกระป๋องที่หมดอายุ
ฟ้าสีเข้มรองแผ่นหลังของเมฆ
ยอดอันชะลูดของไม้ต้นหนึ่งเกลี้ยงโกร๋น
หลังจากตอนนั้น...นกตัวหนึ่งบินมาเกาะและเกาะอยู่นาน
-ใบไม้ร่วงเป็นของดิน
-กิ่งไม้เปล่าเป็นของลม
นกบอกก่อนบินจากกิ่งไม้ไป
-ชีวิตเป็นที่พักชั่วคราว- ผมตะโกนบอกนก
-มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าทัศนา- ผมตะโกนบอกนก
“มันไม่ได้ช่วยอะไร” ใบไม้ร่วงใบหนึ่งกระซิบจากหัวไหล่
มันปลิวจากไปและเอนหลังลงดิน
ผมมองใบไม้ร่วงซึ่งกำลังจะกลายร่าง
-ความตายคือครูที่เข้มงวด ถือไม้เรียวและซ่อนรอยยิ้มอันปราณีเอาไว้มิให้ใครเห็น- ผมพยายามเป็นครั้งสุดท้าย
ก่อนหน้านี้... เจ้าชายคงนั่งคนเดียว นั่งหันหลังอย่างโดดเดี่ยว ท่ามกลางใบไม้ร่วงปลิว
เมื่อผมมาถึง เขาก็ตกเป็นของใบไม้ร่วงไปเสียแล้ว
ผมยังไม่ได้คิดว่าจะทำอย่างไรต่อ
ทั้งที่ผมสยายยาวของเขายังสะบัดพัดปลิวด้วยลมอยู่แท้ๆ ... ผมยังคร่ำครวญ
17 กุมภาพันธ์ 2549
Comments
Post a Comment