คอมเมนต์โต้วิทยากร เชียงกูรเรื่องปฏิรูปก่อนเลือกตั้ง



ประเด็นแรก ที่กล่าวว่า ปฏิรูปก่อนเลือกตั้งขอเรียนว่าหยุดมโนกันเองว่าท่านมีสิทธิ์ปฏิรูปหรือจัดให้มีการปฏิรูปฝ่ายเดียวได้แล้วครับ  ถ้าจะปฏิรูปก็ต้องมีการทำประชามติ โดยรัฐบาลที่ผ่านการเลือกตั้ง หรือไม่ก็เสนอเป็นแนวทางปฏิรูปในช่วงหาเสียงให้คนเลือก พวกท่านไม่มีสิทธิ์ยึดเอาประเทศไปปฏิรูปอะไรของท่านแล้วบอกว่ามีการเลือกตั้งทีหลังครับ

ประการที่สอง ที่กล่าวว่า พรรครัฐบาลก็จะเอาชนะทางการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากหนักเข้าไปอีกและอยู่แบบด้านๆได่ต่อไป  ก็ต้องบอกว่า อ้าว ก็เขาชนะการเลือกตั้งก็แปลว่าคนยังเลือกเขา ผมว่าฝ่ายที่ หน้าด้านคือฝ่ายที่พยายามจะยึดเอาอำนาจไปปฏิรูปฝ่ายเดียว ทั้งที่ รู้ตัวอยู่แล้วว่าคนเขาไม่เอา ความคิดตัวเองหรือเปล่าครับ

คือที่คุย ๆ กันอยู่นี่  รู้ตัวว่าเป็นเสียงส่วนน้อยแล้วกำลังพยายาม แย่งอำนาจมาอยู่ที่ตัวเอง รู้ว่าองค์กรอิสระ เข้าข้างฝ่ายตน แต่ รอไม่ไหวต้องยึดอำนาจมาปฏิรูปก่อนเลือกตั้งให้ได้ใช่ไหมครับ

ถ้าเริ่มต้นคิดด้วยการละเมิดสิทธิ์คนอื่น ไม่เคารพสิทธิ์คนอื่น หลงคิดว่าตนฉลาดกว่าดีกว่า สมควรได้อำนาจมาทำอะไรเองฝ่ายเดียว หวาดกลัวการเลือกตั้ง แบบนี้ ยังคิดจะอยู่ร่วมประเทศกันอีกหรือครับ ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ไม่ใช่ว่าเคยทำกันมาตั้งแต่ปี 49 หรือครับ ยึดอำนาจไปแล้วพูดจาใหญ่โตจะปฏิรูปโน่นนี่จนออกมาเป็นรัฐธรรมนูญ 50 นี่ไม่ใช่ผลงานของ ฝ่ายที่คิดว่าดีกว่าและยึดอำนาจไปทำเองฝ่ายเดียวหรือครับ แล้ววิกฤตก็บานปลายมาจนถึงวันนี้ไม่ใช่เพราะไม่ยอมรับระบอบประชาธิปไตยหรือ


วิทยากรเขียนว่า:

ปฏิรูปก่อนการจัดเลือกตั้งใหม่เป็นแนวคิดที่ดีกว่า เลือกตั้งไปก่อนแล้วค่อยปฏิรูป เพราะถ้าเลือกตั้งในเพียงเดือนกว่าๆนี้ ระบอบทักษิณ รวมทั้งนักการเมืองประเภทที่เคยบ่นว่าเป็นฝ่ายค้านแล้วอดอยาก ก็จะเข้ามาเต็มสภาอีก การทำคำสัญญา สัตยาบัน อะไรก็ตามแต่ที่มีคนเสนอให้พวกนักการเมืองเหล่านี้รับปากก่อนเลือกตั้ง ไม่มีความหมายอะไร คนพวกนี้สัญญา รับปาก กล่าวคำปฏิญญา ได้ทุกอย่าง แต่พอมีอำนาจแล้ว ก็ทำตรงกันข้ามได้หน้าตาเฉย เพราะประชาชน ทำอะไรพวกเขาไม่ได้ จะลงชื่อถอดถอนพวกเขาก็ยากมากหรือไม่อาจเป็นไปได้เลย เพราะต้องไปผ่านองค์กร และกระบวนการที่พวกเขาคุมได้อีก

ประชาชนควรศึกษาปัญหานี้กันให้มาก จัดตั้งกลุ่มองค์กรกันเอง เผยแพร่ให้ประชนคนอื่นๆเข้าใจปัญหานี้ ร่วมมือกันเรียกร้องผลักดันให้ยิ่งลักษณ์ขอพักหยุดการปฏิบัิตราชการ ๑ปี

โดยไม่ต้ังพวกตัวเองมาทำหน้าที่แทน ให้ปลัดกระทรวง และข้าราชการระดับเดียวกันทุกกระทรวงปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐบาลรักษาการแทน ทำหน้าที่ปฏิรูปกฎหมาย องค์กรที่ดูแลส่งเสริมเรืองการเลือกตั้ง การป้องกันและปราบปรามคอรับชั่น และการปฏิรูปอ่ื่นที่จำเป็นและทำได้ใน ๑ปี และจัดการเลือกตั้งใหม่

แนวคิดเรื่องการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจและสังคม ผมเขียนเป็นทั้งหนังสือและบทความไว้มาก ( เปิดดูจากกูเกิล ค้นชื่อผม) อยากฝากให้ช่วยกันอ่าน อภิปรายกัน เผยแพร่ต่อ ต้องช่วยกันทำให้ประชาชนสนใจ เข้าใจเรือ่งนี้ให้มาก ประชาชนจึงจะรู้เท่าทันพวกนักการเมืองที่มีอำนาจ มีเงิน เลห์เหลี่ยมมาก ฉลาดแบบเห็นแก่ตัวมาก รวมทั้งรู้เท่าทันพวกนักวิชาการเสรีนิยมปัจเจกชนนิยม ที่ปกป้อง เข้าข้าง เป็นแนวร่วม (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่)ระบอบทักษิณด้วย

......................................

เลือกตั้งก่อนการปฏิรูปเป็นแนวคิดที่ดีกว่า ปฏิรูปไปก่อนแล้วค่อยเลือกตั้ง ถ้าปฏิรูปเพียงปีกว่า ๆ นี้ ระบอบอมาตย์ประเภทที่เคยบ่อเรื่องระบอบทักษิณแล้วอดอยาก ก็จะเข้ามาเต็มสภาอีก การร่างรัฐธรรมนูญใหม่ อะไรที่มีคนเสนอให้รับ ๆ ไปก่อนแล้วแก้ทีหลัง ไม่มีความหมายอะไร คนพวกนี้สัญญา รับปาก กล่าวคำปฏิญาณ ได้ทุกอย่าง แต่พอมีอำนาจแล้วก็ทำตรงกันข้ามได้หน้าตาเฉย เพราะประชาชนทำอะไรพวกเขาไม่ได้ ตรวจสอบไม่ได้ เลือกก็ไม่ได้อีกเพราะคนพวกนี้ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง จะลงชื่อถอดถอนก็ยิ่งยากมากหรือไม่อาจเป็นไปได้เลย เพราะต้องไปผ่านองค์กร และกระบวนการที่พวกเขาคุมได้อีก

ประชาชนควรศึกษาปัญหานี้กันให้มาก จัดตั้งกลุ่มองค์กรกันเอง เผยแพร่ให้ประชาชนคนอื่น ๆ เข้าใจปัญหานี้ ร่วมมือกันเรียกร้องผลักดันให้ศาลรัฐธรรมนูญ องคมนตรี แม่ทัพทั้งหลายในกองทัพ หยุดการปฏิบัติราชการ ๑ ปี โดยไม่ตั้งพวกตัวเองมาทำหน้าที่แทน ให้ตั้งประชาชน พลเรือน ทำหน้าที่ปฏิรูปกฎหมาย จัดรูปองค์กรที่ไม่ยึดโยงกับประชาชนต่าง ๆ จัดตั้งกลไกป้องกันและปราบปรามการคอรัปชั่น และปฏิรูปส่วนอื่นที่จำเป็น ทำได้ภายใน ๑ ปี แล้วจัดการเลือกศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง องค์กรอิสระ แม่ทัพทั้งหลายในกองทัพ ใหม่

ส่วนแนวคิดเรื่องการปฏิรูปสถาบันกษัตริย์ ดร.สมศักดิ์ เจียมธีรสกุลเขียนทั้งเป็นหนังสือ บทความและสเตตัสเอาไว้มาก (เปิดดูจากกูเกิล ค้นชื่อ สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล) อยากฝากให้ช่วยกันอ่าน อภิปรายกัน เผยแพร่ต่อ ต้องช่วยทำให้ประชาชนสนใจ เข้าใจเรื่องนี้ให้มาก ประชาชนจึงจะรู้เท่าทันพวกอำมาตย์นักการเมืองที่มีอำนาจ มีเงิน เล่เหลี่ยมมาก ฉลาดแบบเห็นแก่ตัวมาก รวมทั้งรู้เท่าทันพวกนักวิชาการจารีตนิยมอนุรักษ์นิยม ที่ปกป้อง เข้าข้าง เป็นแนวร่วม (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่) ระบอบอมาตย์ด้วย

13-12-13 และ 16-12-13




Comments