พันธกาล
บทกวีของรชาโดดเด่นที่เนื้อหาอันสะท้อนสภาวะภายในที่แกว่งไหวของปัจเจกที่เคว้งคว้างในโลกทุนนิยม รวมบทกวีเล่มแรกของ รชา พรมภวังค์ เป็นการรวบรวมผลงานที่ยาวนานมาก เพราะรชาเขียนบทกวีตั้งแต่ต้นทศวรรษ 2540 แต่เพิ่งจะมีหนังสือเอาเกือบ 20 ปีให้หลัง เนื่องจากผู้เขียนไม่มีความกระตือรือร้นในการรวมเล่มนัก แต่หลังจากวิกฤตการเมือง แรงกระตุ้นหนึ่งก็คือความผิดหวังต่อบรรดานักเขียนกวีเพื่อชีวิตที่พากันสนับสนุนเผด็จการ
หนังสือ พันธกาล
ผู้เขียน รชา พรมภวังค์
สำนักพิมพ์ Shine Publishing House
เวลาพิมพ์ ตุลาคม 2014
ISBN 9786169101383
ขนาดรูปเล่ม 104x177x10 มม.
เนื้อใน กระดาษถนอมสายตา พิมพ์ขาวดำ
ปก กระดาษอาร์ตการ์ด เคลือบ UV พิมพ์ 4 สี มีปีกปก
จำนวนหน้า 156 หน้า
ราคาปก 165 บาท
สั่งซื้อ ร้านสำนักพิมพ์ไชน์
โปรยปกหลัง
เป็นทั้งเหตุและผลคนเคยรัก
เมื่อความจริงโค่นหักย่อมหนักหน่วง
หายไปค่อนชีวิตในความลวง
เหลือเพียงใจกลวง ๆ ตอนปลายทาง
จะมีที่ให้ไปสักกี่แห่ง
ทุกหนล้วนเว้าแหว่งและเปล่าว่าง
ทั้งภาพเขาและรักเราในเงาจาง
กระจัดกระจายในโลกกว้างอย่างเคยเป็น
เมื่อกวีพรมภวังค์ จากห้วงลึกสู่ภาพกว้าง แล้วเดินทางกลับสู่ห้วงลึก นํ้าหนักบนสัมผัสรับรู้ของเรา จึงไม่ใช่เพียงท่วงทีละเมียดละไม หากยังเป็นสีสันของภาษาที่เข้มข้น และกลวิธีอันแยบคาย ความเปรียบมากมายอันนำมาซึ่งเสน่ห์ และนำไปสู่เนื้อสาร โปรยพรมลงในหัวใจไม่ขาดสาย หัวใจที่แห้งเฉาของเราแผ่วไหวต่อภวังค์... หลังจากนั้น พลิกฟื้นคืนความใฝ่ฝันอีกครั้ง!
ประกาย ปรัชญา
คำบรรยายแบบย่อ
ในแวดวงกวี รชา พรมภวังค์กล่าวได้ว่าเป็นนามที่โดดเด่นเป็นที่จับตามองในช่วงต้นทศวรรษ 2540 เมื่อมีผลงานลงในมติชนสุดสัปดาห์อย่างต่อเนื่อง บทกวีของเขามีกลิ่นอายและท่วงทำนองแบบลูกทุ่ง-เพื่อชีวิต ขณะเดียวกันก็มีมุมมองและน้ำเสียงแบบปัจเจกนิยมที่เพิ่งเกิดขึ้นในห้วงเวลานั้น ความโดดเด่นในบทกวีในช่วงแรกของรชาอยู่ที่มุมมองอันละเอียดอ่อนต่อปรากฏการณ์ทั่วไปซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับชีวิตประจำวันเมื่อไรก็ได้ ฉายภาพตัวตนของปัจเจกผ่านถ้อยคำเรียบง่ายในท่วงทำนองอ่อนหวานแบบกลอนแปด ในขณะที่กลอนเปล่าของเขาบรรจุไว้ด้วยมุมมองความคิดแบบนักเขียนเรื่องสั้น กล่าวได้ว่าบทกวีของเขาเป็นบทกวีที่นอกจากท่วงทำนองของอารมณ์อันอ่อนไหวแล้ว ยังบรรจุไว้ซึ่งประเด็นทางความคิดและรูปธรรมที่น่าใคร่ครวญซึ่งไม่พบได้บ่อยนักในกวีไทย ในขณะที่ความโดดเด่นของช่วงหลังคืออารมณ์ที่ปะทุปะทะตอบโต้ต่อความไม่ยุติธรรม แสดงความชัดเจนปราศจากความคลุมเครือในความรู้สึกและจุดยืนท่ามกลางเหตุการณ์ทางการเมืองอันอลหม่าน
สารบาญ
คำนำ 008
ภาคหนึ่ง มองหาดอกไม้บนดวงจันทร์
ใบหูกวางระบัดบาน 018
มรสุม 020
อดีตในสายลม 022
มรณะมิติ 025
ความพลัดพราก 026
ย้ายบ้าน 028
แมวดำวัดอุโมงค์ 030
เราต่างไม่สมบูรณ์ 032
บนเวที 034
คำตอบในดวงตา 036
ถ้อยคำ 040
วันสตาร์ 042
ความเศร้าในเช้าหม่น 44
โลกภายใน 46
แพ้ 48
เพียงวัน 50
เงา 52
ไม่ใช่ความเชื่อ 53
เจ้าชายน้อย 55
ดาวทั้งปวงในดวงตา 57
ช่องว่าง 62
น้ำค้างในพร่างแดด 63
นํ้ำตก 65
คํ่ำคืนแสงจันทร์ 67
จิ๊กซอว์ 68
บ้านสายรุ้งกลางทุ่งหญ้า 69
อาณาเขตแห่งรัก 71
ความรัก 72
ความลับ 73
นิรันดร์ 74
ความรักเสมือนจริง 78
ค้าง 79
กูเกิ้ล 80
ข่มขืน 81
ร่วงหล่น 82
ใต้ตึก 83
คนบ้า 85
รถประจำทาง 86
ทางตัน 88
ดวงจันทร์ในหนองน้ำ 90
แสงดาวในขาวแดด 92
ภาคสอง ประเทศที่ไม่มีประชาชน
ขบถโรมานซ์ 96
สงคราม 98
วังวนแห่งความพ่ายแพ้ 100
ปัญญาชน 101
ศตวรรษแห่งความเศร้า 103
นักเขียนนิยาย 104
ชะตากรรมของดาวตก 106
หญิงสาวของฉัน 107
ชนชั้นแห่งความเศร้า 109
เริ่มต้นที่หัวใจ 111
ชนชั้นกระหายเลือด 116
unfortunately some people died 118
ประวัติศาสตร์ 119
ความตายไม่ปรากฏ 120
ประเทศที่ไม่มีประชาชน 121
ซีโร่ 122
นกประหลาด 123
ตาสว่าง 125
Hate speech 127
ชาติไม่นิยม 128
ไม่ศักดิ์สิทธิ์ 130
ประเทศของเด็กๆ 134
เกลียด 136
เดินรักทางไกล 137
ฆาตกร 139
ฝันร้าย 140
เลือดไม่ใช่ความชอบธรรม 142
ปาร์ตี้ 143
สิ่งใหม่ สิ่งเก่า 145
พันธกาล 146
ภารกิจ 147
การกลับมาของใบไม้ 149
จากผู้เขียน 154
ย่อจากคำนำ
คำถามอันสัมพันธ์กับวัยเยาว์ ว่าเหตุใด ชีวิตเติบโตขึ้นแต่จิตวิญญาณกลับลีบเล็กลง ถามถึงความมีอยู่และความเป็นอื่นของตัวตน, ถึงความแปลกแยกแปลกหน้าอันไม่สิ้นสุดในตัวเอง ความไม่รู้จะลงรอยกับชีวิตอย่างไรนั่นก็ด้วย คำถามถึงความว่างเปล่า ในระดับเฉียดใกล้อภิปรัชญา ถามอย่างจวนเจียนเพ้อคลั่ง ถามอย่างบุกบั่นสัญจรไปเท่าที่จะเห็นดินแดนและมิติ ถึงความรัก
สัมผัสรับรู้ของเรา ยังปรากฏภาพของผู้คนบนถนนรนแคม ขวนขวายไขว่คว้าเงื่อนไขเพื่อจะทนทานชีวิตอันยากแค้นต่อไปให้ได้ วันต่อวัน ภวังค์นั้นปรากฏภาพของผู้คนบนถนน... ในความหมายของการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย, การเรียกร้องเพื่อให้ได้มาซึ่งความยุติธรรม การต่อสู้เรียกร้องของผู้คน “จำทนในจนเจียม” บนถนน ดำเนินไปท่ามกลางการเหยียดหยันทางชนชั้นอย่างหนักหน่วงรุนแรง และยุติลงหลังการปราบปรามเข่นฆ่าอย่างป่าเถื่อนโดยรัฐบาลพลเรือน ขณะเหยื่อสังหารถูกตีค่าว่าไม่มีความเป็นคน – เป็นเพียงสัตว์ชนิดหนึ่ง
ฝ่ายหนึ่งคือ “ชนชั้นแห่งความเศร้า” อีกฝ่ายครองสถานะ “ชนชั้นกระหายเลือด” อย่างเชิดหน้าชูตา กวีประกาศจุดยืนของเขา ชี้ชวนเราสะทกสะเทือนไปกับเหยื่ออธรรม, แสดงนํ้าเสียงของเขา วิพากษ์วิจารณ์บุคคลซึ่งร่วมในบริบทเหตุการณ์ ภวังค์ของกวี เป็นหนึ่งเดียวกับสิ่งที่เขาเรียกว่า “พันธกาล” เมื่อมองฝ่าปัจจุบันอันมืดมน เขาเห็นแสงเรื่อเรืองที่ชายขอบฟ้า
ที่สุดแล้ว กวีนำเราดิ่งดำสู่นามธรรมแห่งความหวัง เราตระหนักได้ ถึงขณะหนึ่งขณะใดในพันธกาลเมื่อกวีพรมภวังค์ จากห้วงลึกสู่ภาพกว้าง แล้วเดินทางกลับสู่ห้วงลึก นํ้าหนักบนสัมผัสรับรู้ของเรา จึงไม่ใช่เพียงท่วงทีละเมียดละไม หากยังเป็นสีสันของภาษาที่เข้มข้น และกลวิธีอันแยบคาย ความเปรียบมากมายอันนำมาซึ่งเสน่ห์ และนำไปสู่เนื้อสาร โปรยพรมลงในหัวใจไม่ขาดสาย
บางส่วนจากผู้เขียน
จากร้านเหล้าข้างมหาวิทยาลัยจนถึงโต๊ะเขียนหนังสือที่มองออกไปเห็นหลิวลู่ลม จากเขียนถ้อยคำด้วยดินสอลงในสมุดบันทึก จนถึงนั่งจิ้มแป้นคีย์บอร์ด เป็นยี่สิบปีที่ทั้งผ่านไปรวดเร็ว ทั้งคืบคลานเชื่องช้า และบางครั้งก็คล้ายหยุดนิ่ง กลับไปทวนอ่านสิ่งที่เคยเขียน บางความรู้สึกคล้ายไม่เปลี่ยนแปลงใดๆเลยในระยะเวลายี่สิบปี บางความรู้สึกก็เปลี่ยนไปเสียจนอดขวยเขินต่อถ้อยคำไร้เดียงสาไม่ได้ บางความรู้สึกหายไปเหมือนสาบสูญไม่เคยมีอยู่ บางความรู้สึกหายหน้าไปแล้วก็แวะเวียนกลับมาทักทายอีก เหมือนกิ่งหลิวที่ถูกลมหอบพัดปลิวขึ้นสูงไปเพื่อที่จะทิ้งตัวลงมาสงบนิ่งเมื่อสายลมผ่านเลย
อะไรคือเงื่อนไขของความเปลี่ยนแปลงในตัวคน?ๆ?หนึ่ง เมื่อมองลึกลงไปในดวงตาของชีวิตวัยสี่สิบมีสิ่งใดที่ตกค้างอยู่ มีสิ่งใดที่เลยผ่านลับไป บางขณะที่เราเคยท่วมท้นด้วยความรู้สึกนั้น มีค่าพอให้จดจำหรือไม่ สลักสำคัญพอที่จะทำให้เราตระหนักถึงความหมายของชีวิตบางด้านหรือไม่ หรือเป็นแค่
ปรากฏการณ์สามัญที่ไม่ได้ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้โหยไห้ใคร่ครวญ
Comments
Post a Comment