IRONIC ของโรแมนติก
ชเร็คเป็นเรื่องของยักษ์ตัวสีเขียวใจดีที่ไปช่วยเจ้าหญิงในปราสาทซึ่งมีมังกรเฝ้า
เนื่องจากดูมานานแล้วผมจึงจำรายละเอียดทั้งหมดไม่ได้
รู้เพียงว่าในตอนท้ายของเรื่องเมื่อชเร็คช่วยเจ้าหญิงได้แล้ว ทั้งสองก็รักกัน
แต่เจ้าหญิงเป็นคนส่วนชเร็คเป็นยักษ์ตัวสีเขียวน่าเกลียด ความรักของทั้งคู่จึง
ดูเหมือนมีอุปสรรค
แต่เรื่องก็คลี่คลายไปได้เมื่อเจ้าหญิงคืนร่าง
กลับกลายเป็นยักษ์ผู้หญิงตัวสีเขียวเหมือนชเร็ค
เรื่องราวเช่นนี้ฟังเผิน ๆ ก็ดูเหมือนแฮปปี้เอ็นดิ้ง
ในที่สุดทั้งสองก็ครองรักกันอย่างเป็นปรกติสุข
อันที่จริงพล็อตของเรื่องนี้ดำเนินไปตามขนบของเทพนิยายทุกประการ
เพียงแต่ในความเห็นของคนทั่วไปความน่ารักน่าหยิกของเรื่องอยู่ตรงที่การผูกเรื่องที่ให้
เจ้าหญิงกลายเป็นยักษ์น่าเกลียด แทนที่ ชเร็คจะกลายมาเป็นเจ้าชายรูปงาม
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าจะเป็นชเร็คหรือเจ้าหญิงที่เป็นฝ่ายกลายร่าง
เรื่องก็จบลงอย่างโรแมนติกไม่แพ้กัน
เฮลล์บอยหลุดหลงจากนรกมาสู่โลกมนุษย์ตั้งแต่ทารกโดยได้รับการอุปการะจากด็อกเตอร์ผู้เมตตาคนหนึ่ง
ด้วยความเป็นปิศาจมีรูปร่างและความสามารถผิดมนุษมนา
เฮลล์บอยจึงต้องทำงานอยู่ในสังกัดของหน่วยงานพิเศษภายใต้การดูแลของด็อกเตอร์
ในหน่วยนี้นอกจากเฮลล์บอยแล้วก็ยังมีมนุษย์ปลากับผู้หญิงคนหนึ่ง
มนุษย์ปลานั้นดูหน้าดูตาแล้วก็ไม่ใช่คนอย่างแน่นอน อาศัยอยู่ในน้ำ
แม้ไอคิวจะต่ำแต่อีคิวสูงมีความสามารถพิเศษทางจิต
ส่วนผู้หญิงดูเหมือนคนปรกติธรรมดาทุกอย่าง แต่แท้จริงแล้วเธอคือแม่มด
เมื่อใดที่เธอโกรธจะเกิดเพลิงพิโรธแผดเผาทุกสิ่งทุกอย่าง เฮลล์บอยหลงรักเธอ
แต่เธออยากเป็นคนปรกติ เมื่อคิดว่าสามารถควบคุมไฟในตัวเองได้
เธอจึงออกจากหน่วยงานนี้ไปอยู่ในโรงบำบัดแห่งหนึ่ง
แต่สุดท้ายฝ่ายผู้ร้ายก็ทำให้ไฟในร่างของเธอลุกไหม้อีกครั้ง ส่งผลให้ตึกโรงพยาบาลที่เธออยู่มอดไหม้เป็นจุล
เธอจึงกลับคืนมาสู่หน่วยพิเศษอีกครั้ง
ในที่สุดเฮลล์บอยกับแม่มดก็รักกันและเรื่องจึงจบลงอย่างโรแมนติก
ชเร็คและเฮลล์บอยเป็นฮีโร่
แต่จุดที่ทำให้ทั้งสองเหมือนกันและแตกต่างจากฮีโร่คนอื่นก็คือความเป็นอมนุษย์
ชเร็คเป็นยักษ์ส่วนเฮลล์บอยเป็นปิศาจ
เหล่าฮีโร่โดยปรกตินั้นมีความเป็นอื่นไม่มากก็น้อยอยู่แล้ว
แต่ยักษ์และปิศาจนั้นมีสถานภาพที่ต้องกล่าวว่าอยู่ตรงข้ามกับความเป็นฮีโร่ด้วยซ้ำ
ฉะนั้นความเป็นอื่นของทั้งคู่จึงมีความเข้มข้นเหมือนกันคือทั้งสองไม่ได้แค่
"ไม่ได้เป็นมนุษย์" แต่ทั้งสองเป็นอะไรที่อยู่ตรงข้ามกับมนุษย์ทีเดียว
ในเรื่องเฮลล์บอย
นางเอกต้องการกลับเป็นคนปรกติแต่ไม่สำเร็จ
ส่วนพระเอกก็เกลียดเขาของตัวเองและคอยเลื่อยขัดมันออก
ทั้งพระเอกและนางเอกต่างรังเกียจความผิดมนุษย์ในตัวเอง และต้องการเป็นคนปรกติ
แต่ทั้งสองก็ไม่อาจขจัดความเป็นอื่นในตัวเองออกไปได้
เมื่อแม่มดควบคุมไฟไม่ได้และเผาตึกทั้งหลัง
เมื่อเขาของเฮลล์บอยงอกใหม่อย่างไม่มีวันสิ้นสุด
ทั้งคู่จึงจำต้องอยู่กับความเป็นอื่นในตัว
ทั้งหมดนี้เป็นน้ำหนักให้กับความรักของคนทั้งสองโดยไม่ต้องอธิบาย
และอันที่จริงต้องบอกว่าสิ่งที่ผูกพันให้ทั้งคู่รักกันนั้นก็คือความเป็นอื่นนั่นเอง
ทำไมชเร็คและเจ้าหญิงไม่สามารถรักกันทั้งอย่างนั้น
โดยไม่ต้องมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกลายร่าง
ถ้าหากความพยายามในการกลับไปเป็นคนปรกติของแม่มดสำเร็จ
เฮลล์บอยและแม่มดจะยังสามารถรักกันได้อยู่อีกหรือไม่
เหมือนมีเส้นอะไรบางอย่างคอยตีกรอบเรื่องว่า
ถ้าอย่างจะจบแบบแฮปปี้เอนดิ้งก็มีทางเลือกอยู่เพียงไม่กี่ทาง
ความรักและความโรแมนติกในตอบจบของทั้งสองบอกเราว่า
“ความแฮปปี้เอนดิ้ง” ของมนุษย์นั้นจะต้องประกอบไปด้วย
“ความโรแมนติก” และ
โรแมนติก นั้นจะต้องไม่มีความแปลกแยก และความแปลกแยกนั้นจะขจัดไปก็ด้วยการขีดเส้นเพื่อสร้างความเป็นอื่น
หนึ่ง ขีดเส้นล้อมคู่รักทั้งสองเอาไว้ เพื่อให้เห็นว่านอกจากทั้งสองนี้แล้ว
นอกนั้น ล้วนแปลกแยกแตกต่างอยู่ในความเป็นอื่น สอง
เส้นที่ขีดนี้จะไม่สามารถอยู่ระหว่างคนทั้งสองได้
หรือถ้ามีเส้นอยู่ระหว่างคนทั้งสองก็จำเป็นที่จะต้องลบทิ้ง (ด้วยการกลายร่าง)
ในโลกของ “แฮปปี้เอนดิ้ง” จึงจำเป็นที่จะต้องมี “โรแมนติก” ชเร็คไม่อาจรักกับเจ้าหญิงได้ถ้าไม่มีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งกลายร่างให้เหมือนกันเสียก่อน
ขณะที่ความรักของเฮลล์บอยกับแม่มดเข้มข้นขึ้นได้ก็เพราะต่างเป็นคนอื่นที่ไม่ใช่มนุษย์
ทั้งหมดนี้ดูเหมือนจะเป็น irony ของพล็อตเรื่องที่มีพระเอกนางเอกผิดปรกติ
ที่ฟ้องร้องความไม่ปรกติของ happy
romantic
พิมพ์ครั้งแรก BIOSCOPE มิถุนายน 2547
Comments
Post a Comment